หน่วยการเรียนที่ 9
หน่วยการเรียนที่ 9
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศกับการเรียนการสอน
ความหมายของการประยุกต์
การประยุกต์ หมายถึง การนำ “บางสิ่ง” มาใช้ประโยชน์
โดยปรับใช้อย่างเหมาะสมกับสภาวะที่เฉพาะเจาะจง การประยุกต์เป็นวิธีการนำบางสิ่งมาใช้ประโยชน์
“บางสิ่ง”
ที่นำมานั้น
อาจเป็นทฤษฎี หลักการ แนวคิด ความรู้เกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
และนำมาใช้ประโยชน์ในภาคปฏิบัติ
โดยปรับให้เข้ากับบริบทแวดล้อมที่เป็นอยู่อย่างเหมาะสม
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
เทคโนโลยี หมายถึง การประยุกต์เอาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์
ความจริงเกี่ยวกับธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม มาทำให้เกิดประโยชน์ต่อมวลมนุษย์
เทคโนโลยีจึงเป็นวิธีการในการสร้างมูลค่าเพิ่มของสิ่งต่าง ๆ
ให้เกิดประโยชน์มากยิ่งขึ้น
สารสนเทศ
หมายถึง ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ ข้อมูลดังกล่าวต้องผ่านการเก็บรวบรวม
จัดเก็บ ตรวจสอบความถูกต้อง แบ่งกลุ่มจัดประเภทของข้อมูล และสรุปออกมาเป็นสารสนเทศ
และมนุษย์นำเอาสารสนเทศนั้นไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ เช่น รายงาน ผลงานการวิจัย
ข่าวสารต่าง ๆ
เทคโนโลยีสารสนเทศ
เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information
Technology : IT) หมายถึงการนำเอาเทคโนโลยีมาทำให้สารสนเทศมีประโยชน์
และใช้งานได้กว้างขวางมากขึ้น เทคโนโลยีสารสนเทศรวมไปถึงการใช้เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ
ที่จะรวบรวม จัดเก็บ ใช้งาน ส่งต่อ หรือสื่อสารระหว่างกัน
เทคโนโลยีสารสนเทศเกี่ยวข้องโดยตรงกับใช้สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสารสนเทศ
เครื่องมือเครื่องใช้ในการจัดการสารสนเทศ ซึ่งได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์
และอุปกรณ์รอบข้าง ขั้นตอน วิธีการดำเนินการ ซึ่งเกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์
เกี่ยวข้องกับตัวข้อมูล เกี่ยวข้องกับบุคลากร
เกี่ยวข้องกับกรรมวิธีการดำเนินงานเพื่อให้ข้อมูลเกิดประโยชน์สูงสุด
นอกจากนี้แล้วยังรวมไปถึง โทรทัศน์ วิทยุ โทรศัพท์ โทรสาร หนังสือพิมพ์
นิตยสารต่าง ๆ ฯลฯ
ความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ
1.
เทคโนโลยีสารสนเทศ ทำให้สังคมเปลี่ยนจากสังคมอุตสาหกรรมมาเป็นสังคมสารสนเทศ
2.
เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้ระบบเศรษฐกิจเปลี่ยนจากระบบแห่งชาติไปเป็นเศรษฐกิจ โลก
ที่ทำให้ระบบเศรษฐกิจของโลกผูกพันกับทุกประเทศ
ความเชื่อมโยงของเครือข่ายสารสนเทศทำให้เกิดสังคมโลกาภิวัฒน์
3.
เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้องค์กรมีลักษณะผูกพัน มีการบังคับบัญชาแบบแนวราบมากขึ้น
หน่วยธุรกิจมีขนาดเล็กลง และเชื่อมโยงกันกับหน่วยธุรกิจอื่นเป็นเครือข่าย
การดำเนินธุรกิจมีการแข่งขันกันในด้านความเร็ว
โดยอาศัยการใช้ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ และการสื่อสารโทรคมนาคมเป็นตัวสนับสนุน
เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็ว
4.
เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเทคโนโลยีแบบสุนทรียสัมผัส
และสามารถตอบสนองตามความต้องการการใช้เทคโนโลยีในรูปแบบใหม่ที่เลือกได้เอง
5.
เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้เกิดสภาพทางการทำงานแบบทุกสถานที่และทุกเวลา
6.
เทคโนโลยีสารสนเทศก่อให้เกิดการวางแผนการดำเนินการระยะยาวขึ้น อีกทั้งยังทำให้วิถีการตัดสินใจ
หรือเลือกทางเลือกได้ละเอียดขึ้น
องค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศ
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ (computer
technology) หมายถึง
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างหนึ่งที่สามารถปรับโปรแกรมและข้อมูล ประมวลผล
สื่อสารเคลื่อนย้ายข้อมูล และแสดงผลลัพธ์ได้
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีทั้งระบบใหญ่และเล็ก อันประกอบด้วยฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์
ข้อมูลและส่วนประกอบอื่น ๆ ปัจจุบัน
คอมพิวเตอร์จึงเป็นเครื่องมือที่ท้าทายของทุกคนมีการนำคอมพิวเตอร์มา
ประยุกต์กับงานต่าง ๆ มากมายตามลักษณะของการใช้งานและประเภทของคอมพิวเตอร์ ได้แก่
ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ เมนเฟรม คอมพิวเตอร์ มินิคอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์
ไมโครคอมพิวเตอร์ ซึ่งในส่วนของระบบคอมพิวเตอร์นั้นจะประกอบไปด้วยส่วนที่สำคัญ 4
ประการ คือ
1.
ฮาร์ดแวร์ (hardware) ได้แก่ อุปกรณ์ส่วนต่าง ๆ ในระบบคอมพิวเตอร์ ได้แก่ ซีพียู
เครื่องพิมพ์ คีย์บอร์ด หน่วยประมวลผลและหน่วยความจำ
2. ซอฟต์แวร์ (software) ได้แก่ ชุดคำสั่งหรือโปรแกรมต่าง ๆ
สำหรับควบคุม
ให้ฮาร์ดแวร์ทำงานได้ตามที่ต้องการ
ซึ่งซอฟต์แวร์นี้ยังแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่ ซอฟต์แวร์ระบบ
และซอฟต์แวร์ประยุกต์
3.
ข้อมูล (data) ได้แก่ ข้อเท็จจริงต่าง ๆ
เกี่ยวกับการปฏิบัติงานที่ต้องเก็บรวบรวมไว้ประกอบการตัดสินใจในการทำงาน
ข้อมูลนับว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญมากที่สุดสิ่งหนึ่งของระบบคอมพิวเตอร์
4.
บุคลากร (people ware) ได้แก่ บุคลากรที่ปฏิบัติงานระบบ (user)
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
1.การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานสำนักงาน
ได้ในหลายลักษณะ เช่น
1.1
การจัดเตรียมเอกสาร เป็นการใช้เครื่องประมวลผลคำหรือเครื่องประมวลผลเนื้อหา
เป็นเครื่องมือในการจัดเตรียม อุปกรณ์เหล่านี้ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ โมเด็ม
และช่องทางการสื่อสาร ระบบประมวลผลคำแบ่งออกได้ 2 ระบบ คือ
-ระบบเดี่ยว
-ระบบเชื่อมโยงกับข่ายการสื่อสาร
1.2
งานกระจายเอกสาร เป็นการกระจายข้อมูลสารสนเทศไปยังผู้ใช้ ณ จุดต่างๆ
1.3
งานจัดเก็บและค้นคืนเอกสาร สามารถทำได้ทั้งระบบออฟไลน์และระบบออนไลน์ โดยผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์
หรือผ่านเครื่อข่ายโทรคมนาคมรูปแบบอื่นๆ
1.4
งานจัดเตรียมสารสนเทศในลักษณะภาพ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์สร้างภาพ
เครื่องสแกนเนอร์ โทรทัศท์ และวีดิทัศน์ เป็นต้น
1.5
งานสื่อสารสารสนเทศด้วยเสียง เช่น การใช้โทรศัพท์ เป็นต้น
1.6
งานสื่อสารสารสนเทศด้วยภาพและเสียง เช่น ระบบมัลติมีเดีย
ระบบการประชุมทางไกลด้วยภาพและเสียง เป็นต้น
2.การ
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานอุตสาหกรรม
โรงงานอุสาหกรรมหลายแห่งนำระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการเข้ามาช่วยในการจัดการ
ระบบการผลิต การสั่งซื้อ การพัสดุ การเงิน บุคลากร และงานด้านอื่นๆ
3.การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานการเงินและการพาณิชย์
สถาบัน
การเงินต่างๆ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในรูปแบบของเครื่องถอนเงินโดยอัตโนมัติ หรือ ATM
เพื่ออำนวยความสะดวกในการฝาก
ถอนอนเงิน
และได้นำคอมพิวเตอร์ระบบออนไลน์และออฟไลน์เข้ามาช่วยในการทำงานประจำวันของ ธนาคาร
4.การ
ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานด้านการบริการสื่อสาร ได้แก่ การบริการโทรศัพท์
โทรศัพท์เคลื่อนที่ วิทยุ โทรทัศน์ การค้นคืนสารสนเทศระบบออนไลน์ และดาวเทียม
เป็นต้น
5.การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานด้านสาธารณสุข
สามารถประยุกต์ใช้ได้หลายด้าน ดังนี้
5.1
ระบบสารสนเทศโรงพยาบาล(Hospital Information System : HIS) นำมาใชในงานเวชระเบียน ระบบข้อมูลยา
การรักษาพยาบาล การคิดเงิน เป็นต้น
5.2
ระบบสาธารณสุข นำมาใช้ในด้านการดูแลรักษาโรคระบาดในท้องถิ่น
5.3
ระบบผู้เชี่ยวชาญ(Expert System) เป็นระบบที่ใช้คอมพิวเตอร์ในกาสรวินิจฉัยโรคระบบสารสนเทศที่ใช้กับงานดัง
กล่าวซึ่งมีชื่อเสียงและมีการนำมาใช้ในราวสิบกว่าปีที่ผ่านมา
6.การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานด้านการฝึกอบรมและการศึกษา
การสอนผ่านดาวเทียม(Direct
ToHome : HTM) หรือการประชุมทางไกล(Vedio
Teleconference)
6.1การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน
6.2การศึกษาทางไกล
มีหลายแบบ เช่น การเรียนการสอนผ่านวิทยุ โทรทัศน์ ไปจนถึงระบบแพร่ภาพ
6.3เครือ
ข่ายการศึกษา เป็นการจัดทำเพื่อให้ครู อาจารย์
และนักเรียนนักศึกษามีโอกาสใช้เครือข่ายแสวงหาความรู้ที่มีอยู่มากมายในโลก
และการใชบริการต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ทางการศึกษา
6.4การ
ใช้งานห้องสมุด เป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ในการยืม คืน การค้นหาหนังสือ
วารสาร สิ่งพิมพ์หรือการค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว
6.5การใช้งานในห้องปฏิบัติการ การใช้งานร่วมกับอุกรณ์เครื่องมือต่างๆ เช่น
การจำลองแบบ การออกแบบวงจรไฟฟ้า การควบคุม การทดลอง เป็นต้น
6.6การ ใชในงานประจำและบริหาร เช่น
การจัดทำทะเบียนประวัตินักเรียนนักศึกษา การเลือกวิชาเรียน การลงทะเบียน
การแสดงผลการเรียน การแนะแนวอาชีพ การแนะแนวการศึกษาต่อ
การเก็บข้อมูลผ้ปกครองหรือข้อมูลครู
ซึ่งทำให้อาจารย์สามารถติดตามและดูแลนักเรียนได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น รวมทั้งครูอาจารย์สามารถพัฒนาตนเองได้สูงขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น